ความกังวลเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีการพนันรูปแบบใหม่ของรัฐบาลอังกฤษกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อองค์กรการกุศลที่ทำงานด้านการป้องกันและรักษาผู้ติดการพนัน โดยหลายองค์กรเกรงว่าจะสูญเสียเงินทุนและต้องปิดตัวลง
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงระบบภาษี
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อระดมทุนประมาณ 100 ล้านปอนด์ต่อปี โดยจัดเก็บภาษีในอัตรา 0.1-1.1% จากรายได้รวมของธุรกิจการพนัน เพื่อนำไปใช้ในการป้องกัน วิจัย และรักษาผู้ติดการพนัน อย่างไรก็ตาม องค์กรการกุศลหลายแห่งกลับมองว่านี่อาจเป็น “เส้นทางสู่นรก”
ความท้าทายขององค์กรการกุศล
- องค์กรถูกบีบให้ตัดความสัมพันธ์กับแหล่งทุนเดิมจากอุตสาหกรรมการพนัน
- หลายองค์กรต้องลดขนาดและปลดพนักงาน
- การให้บริการแก่ผู้ติดการพนันอาจได้รับผลกระทบ
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
“การเปลี่ยนแปลงนี้กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริการที่เราให้แก่ผู้ติดการพนัน ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น” – Duncan Garvie ผู้ก่อตั้ง BetBlocker
Jordan Lea ผู้ก่อตั้ง Deal Me Out ระบุว่า องค์กรการกุศลถูก “กีดกัน” และถูกบังคับให้หยุดทำงานร่วมกับบริษัทพนัน ทั้งที่ความร่วมมือดังกล่าวเคยช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
ข้อกังวลเรื่องงบประมาณ
- เป้าหมายการระดมทุน 100 ล้านปอนด์อาจไม่เป็นไปตามคาด
- ส่วนใหญ่อาจถูกใช้ไปกับค่าบริหารจัดการ
- การให้บริการแก่ผู้ติดการพนันอาจลดลง
ท่ามกลางความไม่แน่นอน องค์กรอย่าง BetBlocker และ Deal Me Out ตัดสินใจที่จะยืนหยัดอยู่นอกระบบใหม่ โดยมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้ติดการพนันเป็นหลัก แม้จะต้องเผชิญความท้าทายด้านเงินทุนก็ตาม