การขยายตัวของอุตสาหกรรมการพนันส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของปัญหาการติดพนันอย่างมีนัยสำคัญ ผลการศึกษาล่าสุดจากข้อมูลนักพนันกว่า 40,000 คน ชี้ให้เห็นว่าปัญหาการพนันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงระดับบุคคล แต่เป็นปัญหาในระดับสังคมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ผลการศึกษาชี้ปัญหาการพนันต้องแก้ในระดับสังคม
งานวิจัยเรื่อง “The total consumption model applied to gambling” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Campaign for Fairer Gambling (CFG) องค์กรอิสระด้านการปฏิรูปการพนัน ได้ยืนยันแบบจำลองการบริโภครวม (Total Consumption Model) ในอุตสาหกรรมการพนัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การป้องกันในระดับสากลเพื่อลดอัตราความเสียหาย
สหรัฐฯ ล้มเหลวในการแก้ปัญหา
การศึกษาระบุว่าสหรัฐฯ มักพึ่งพาแนวคิดเรื่อง “การพนันอย่างรับผิดชอบ” ที่มุ่งเน้นแก้ปัญหาในกลุ่มเปราะบางเล็กๆ แต่ไม่มีหลักฐานว่าแนวทางนี้ช่วยลดความเสียหายได้จริง ในทางตรงกันข้าม การเติบโตของภาคการพนันกลับเชื่อมโยงกับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น
“สถานการณ์ในสหรัฐฯ ร้ายแรงกว่า เพราะการเติบโตของภาคการพนันที่ถูกกฎหมายไม่ได้ช่วยลดกิจกรรมการพนันนอกระบบหรือบรรเทาความเสียหายใดๆ” – Derek Webb ผู้ก่อตั้ง CFG
ข้อเสนอแนะ
- ต้องมีการแทรกแซงจากรัฐบาลกลางเพื่อแก้ไขปัญหาที่กำลังทวีความรุนแรง
- ควรมีมาตรการป้องกันในระดับสังคม แทนที่จะเน้นเฉพาะรายบุคคล
- ต้องมีการติดตามแนวโน้มและรูปแบบการพนันในภาพรวม
งานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานสำคัญของอังกฤษและองค์กรระหว่างประเทศด้านสุขภาพและการพนัน เพื่อศึกษาผลกระทบของการขยายตัวของอุตสาหกรรมการพนันอย่างรอบด้าน